5 เช็กลิสต์สำคัญก่อนตัดสินใจเลือกบริษัทรับจ้างทำเว็บไซต์ 26/Nov/2024 12:00 PM

การทำการตลาดและการขายบนโลกออนไลน์ ณ ปัจจุบัน เริ่มมีการกลับมาสู่พื้นฐานในการค้าขายสินค้ากันแล้ว พื้นฐานที่ว่านั้นก็คือช่องทางบนเว็บไซต์ หลังจากที่ธุรกิจหลายธุรกิจวนไปกระจายการขายสินค้าบนโลกโซเชี่ยลมีเดีย อย่าเฟสบุ๊ค(Facebook) อินสตาแกรม(Instagram) และ ติ๊กต๊อก(Tiktok) กันมาแล้ว รวมไปถึงการขายสินค้าบน Market Place อย่าง Shopee หรือ Lazada และมีบางธุรกิจที่โฟกัสไปในการขายผ่านบนระบบแชทสุดฮิตในประเทศไทยเราอย่าง Line Shopping และสุดท้ายผู้ประกอบการหลาย ๆ ท่านจะเริ่มตระหนักว่า ค่าฝากวางขายในช่องทางนั้น ๆ หรือหลาย ๆ ท่านเรียกว่าค่า GP (Gross Profit) จะเริ่มสูงขึ้นทุก ๆ ปี อาจจะเกิดจากปัจจัยของระดับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสุดท้ายเราจะเริ่มเห็นว่าอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ของเราคือการมีช่องทางการขายเป็นของตัวเอง นั้นก็คือบ้านของเว็บไซต์นั้นเอง

และสำหรับการเริ่มต้นทำเว็บไซต์เพื่อให้ได้คุณภาพอย่างที่เราอยากได้ ในเวลาที่ต้องการ หากเรามีผู้ช่วยอย่างบริษัทรับทำเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้นั้น น่าจะเป็นแต้มต่อที่ดีไม่น้อย

SEP Platform จึงขอแนะนำ 5 เช็กลิสต์ที่จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกบริษัทรับทำเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับธุรกิจของท่านมากที่สุด

เริ่มต้นจาก

1.ผลงานและประสบการณ์ที่ผ่านมาของบริษัทรับทำเว็บไซต์

ผลงานและประสบการณ์ที่ผ่านมาของบริษัทรับทำเว็บไซต์เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด เพราะเป็นการสะท้อนเรื่องของความเข้าใจในธุรกิจและอุตหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเรา ทำให้เวลาที่เราต้องอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจและลูกค้าที่เราต้องการจะง่ายขึ้น รวดเร็วช่วยประหยัดเวลาได้มากขึ้น สิ่งที่เราควรถามรายละเอียดจากบริษัทรับทำเว็บไซต์จะรวมไปถึง กรณีศึกษาต่าง ๆ ที่ทางบริษัทเคยได้พบเจอมาก่อน ว่าในกรณีศึกษานั้น ๆ เคยเจอรูปแบบของธุรกิจที่มีเป้าหมายอย่างไรบ้าง และ มีอุปสรรคในการทำงานอย่างไร พร้อมกับวิธีแก้ไขปัญหาเป็นอย่างไรบ้าง สำหรับในเช็กลิสต์ที่ หนึ่งนั้นจะมีประเด็นย่อยหลัก ๆ ที่เราต้องตรวจสอบดังต่อไปนี้

1.1 ความเชี่ยวชาญของบริษัทรับทำเว็บไซต์

ว่าเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมไหนเป็นหลักไหม หรือมีความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย

1.2 คุณภาพของผลงาน

ประสบการณ์ที่เคยผ่านมาเคยดูแลงานที่มีโครงสร้างของเว็บไซต์ขนาดไหน มีความซับซ้อนไหม และ บริษัทรับทำเว็บไซต์นั้น ๆ มีการสร้างผลลัพธ์ให้กับลูกค้าของพวกเขาอย่างไรบ้าง

1.3 ลูกค้าที่เคยดูแล หรือกรณีศึกษาที่เคยดูแลมา

เป็นลูกค้าที่มีโจทย์มีเป้าหมายอย่างไรและบริการของพวกเขาสามารถช่วยเหลือ ลูกค้าได้อย่างไรบ้าง

และสามารถสร้างผลลัพธ์สุดท้ายได้อย่างไรบ้าง สอบถามกระบวนการทำงานที่ดี และ อุปสรรคเพิ่มเติม

เพื่อให้เราเข้าใจวิธีการทำงานกันมากที่สุด

2.กระบวนการทำงานของบริษัทรับทำเว็บไซต์

กระบวนการทำงานของบริษัททำเว็บไซต์ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยเพราะจะทำให้เราได้รู้ถึงกระบวนการทำงานว่ามีความเป็นมืออาชีพมากน้อยขนาดไหน และวิธีการสื่อสาร ที่ต้องคอยอัปเดตกระบวนการทำงานเป็นระยะ ๆ ให้ทราบถึงความคืบหน้า หรือมีตรงส่วนไหนที่ทางเราต้องให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้เว็บไซต์ สำเร็จลุล่วงตามช่วงเวลาที่เราต้องการ

ในข้อที่ 2 นี้มีเช็กลิสต์ย่อยที่เราต้องคอยตรวจสอบและถามรายละเอียดกับบริษัทรับทำเว็บไซต์ ดังต่อนี้ไป

2.1 มีบริการให้คำปรึกษาเบื้องต้นก่อนให้บริการจริงหรือไม่

เพื่อให้เรามีโอกาสได้สอบถามรายละเอียดประกอบการตัดสินใจ จะได้ไม่ตัดสินใจพลาด หรือเสียงเงินจ้างบริษัททำเว็บไซต์โดยที่เรายังไม่แน่ใจ

2.2 รูปแบบเว็บไซต์ที่เราสามารถเลือกได้ และ จำนวนครั้งของการแก้ไข

เพราะแน่นอนว่า ในส่วนของการเป็นเจ้าของธุรกิจ เราอาจจะเริ่มต้นแบบไม่ได้มีความรู้ด้านการทำเว็บไซต์หรือออกแบบเว็บไซต์มาก่อนเลย ทำให้เราตัดสินใจเรื่องของแนวทางได้ลำบาก อาจจะมีความลังเลด้านรูปแบบและฟังก์ขั่นอยู่ในระหว่างการทำงาน อาจจะต้องสอบถามเรื่องของการปรับและแก้ไขรูปแบบเว็บไซต์ว่าสามารถปรับแก้ และ ปรับเปลี่ยนได้กี่ครั้ง ระดับในการปรับแก้ และ ปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ ว่าปรับได้ในระดับไหนบ้าง เพื่อให้เป็นการสื่อสารที่เข้าใจตรงกันจะได้ไม่มีปัญหาภายหลังทำให้งานเสียเวลาเพิ่มเติม

2.3 รูปแบบการสื่อสารและการรับฟังความคิดเห็น

มีรูปแบบการสื่อสาร การนัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ทั้งเรื่องของจำนวนครั้งในการอัปเดตต่อสัปดาห์ หรือ ต่อเดือน ประเด็นในการประชุม และการปรับแก้งานต่าง การสื่อสารเพื่ออัปเดตเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในกลุ่มประสานงานเพื่อความชัดเจนในการทำงาน

รายละเอียดเอกสารการรับบรีฟและสัญญาในการทำงานที่ชัดเจน

2.4 มีเอกสารวางระยะเวลาการทำงานที่ชัดเจน (Timeline Tracking )

Timeline เป็นเรื่องที่ต้องชัดเจนในการสื่อสารให้ครบถ้วนว่าจะมีสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทางด้านใดบ้าง ถึงเวลานี้แล้วจะได้เห็นความคืบหน้าไปกี่เปอร์เซ็น หากไม่มี Timeline มาเป็นตัวกำหนดก็อาจจะทำให้การสื่อสารออนไลน์หรือการทำการตลาดออนไลน์อื่นๆ ของเราล่าช้าไปด้วย

3.ความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคของบริษัทรับทำเว็บไซต์

อย่างที่เราเข้าใจกันดีว่าความสวยงามเพียงอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องมาพร้อมกับการใช้งานที่ง่าย ฟังก์ชั่นพร้อมสำหรับหน้าบ้านที่มีไว้สำหรับลูกค้าและหลังบ้านที่มีไว้สำหรับผู้ประกอบการ และ ทีมงานในการดูแลเว็บไซต์ด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว จะต้องตรวจสอบความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคว่าเป็นความเชี่ยวชาญทางด้านไหน และมีความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับการทำ SEO (Search engine optimisation) ด้วยหรือไม่เพราะเกี่ยวข้องกับการที่เราเริ่มมีเว็บไซต์แล้ว แต่หากขาดการเตรียมพร้อมสำหรับ SEO ก็เปรียบเสมือนเรามีร้านแล้วแต่ไม่มีป้ายร้าน บอกทางให้ลูกค้าเดินมาหาเราเลยก็อาจจะทำให้เราต้องหาวิธีการหรือทีมงานมาทำด้านี้ต่อทำให้เกิดรอยสะดุดในการทำงานก็เป็นได้

4.มีบริการหลังการขายหรือไม่

ส่วนตรงนี้เป็นสำคัญที่สุดเพราะการบริการหลังการขายจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเนื่องจากการทำเว็บไซต์เสร็จเรียบร้อยตรงตามไทม์ไลน์ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่มีการอัปเดตข้อมูล แก้ไขหรือปรับปรุงเว็บไซต์อีกในอนาคต เพราะฉะนั้นแล้ว จะต้องตรวจสอบเสมอว่าบริษัทที่เรากำลังตัดสินใจเลือกจ้างเพื่อทำเว็บไซต์ให้กับธุรกิจให้เรานั้นมีบริการหลังการขายอย่างไรบ้าง มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการดูแลเพิ่มเติมหรือไม่ อย่างไร เพื่อเราเองจะได้เตรียมงบประมาณสำหรับการดูแลไว้ด้วยในอนาคต

นอกจากเรื่องบริการหลังการขายและมีการฝึกอบรมในการใข้งานเว็บไซต์ให้กับเราและทีมงานหรือไม่ เพื่อให้ทีมงานและเราในฐานะเจ้าของธุรกิจได้รู้วิธีการใช้งานเว็บไซต์อย่างครบถ้วนพร้อมกับคู่มือการใช้งาน

5.เปรียบเทียบความคุ้มค่าและราคา

การพิจารณาเพื่อตัดสินใจความคุ้มค่ากับราคา สิ่งที่เราจะต้องทำคือการหาข้อมูลเปรียบเทียบข้อดีและข้อแตกต่างของบริษัทรับทำเว็บไซต์ในแต่ละเช้าว่ามีความเหมาะสม กับงบประมาณของเรามากน้อยขนาดไหน

มีค่าใช้จ่ายใดหรือไม่ที่จะเป็นค่าใช้จ่ายแอบแฝงในอนาคต ที่เราจะต้องเตรียมการไว้ และนี่ คือ 5 เช็กลิสต์ที่ผู้ประกอบการธุรกิจ จะต้องตัดสินใจก่อน ที่จะเลือก บริษัทรับทำเว็บไซต์ ให้เหมาะสมกับธุรกิจของเราค่ะ หากต้องการขอรับคำปรึกษาก่อนตัดสินใจหาบริษัทรับทำเว็บไซต์

สนใจขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sepplatform.com/th