จัดการทุกรายการสินค้า ด้วยฟังก์ชัน Product Management

Auther : SEP
Views 49 | 21 Jan 2021


November 9, 2020
#SEP Features

จัดการทุกรายการสินค้า ด้วยฟังก์ชัน Product Management





การนำสินค้าทั้งหมดขึ้นบนเว็บไซต์ E-commerce ข้อมูลที่เราใส่ไปทั้งหมดถือเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ขั้นตอนนี้จึงเป็นส่วนสำคัญและต้องใส่ใจในรายละเอียดไม่น้อย และต้องอาศัยการจัดการที่ดีมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะร้านค้าที่มีสินค้าจำนวนมากจำเป็นต้องมีการจัดการที่ดีเยี่ยม ซึ่ง SEP มีระบบการจัดการสินค้า ด้วยฟังก์ชัน ‘Product Management’ หรือ เมนูเครื่องมือสำหรับจัดการสินค้าทั้งหมด โดยมีฟังก์ชันเด่น ๆ คือ


1. สร้างสินค้าใหม่

2. แก้ไข หรือลบสินค้า

3. ดูรายการสินค้าทั้งหมด

4. เปิด-ปิด สินค้า (Active-Inactive)






การเตรียมตัวลงสินค้า 

        การลงสินค้าในระบบ SEP หากไม่มีการเตรียมข้อมูลและวางแผนในการลงสินค้าเสียก่อน อาจทำให้เสียเวลาและเกิดความสับสนในการลงข้อมูล เราจึงอยากแนะนำวิธีการเตรียมข้อมูล"ก่อน"การลงสินค้า 6 ข้อดังต่อไปนี้


1. สร้างหมวดหมู่สินค้า

ในการลงสินค้านั้นจะมีส่วนที่ให้เลือกว่าสินค้าที่จะลงต้องไปอยู่ในหมวดหมู่ใด ซึ่งหากคุณไม่สร้างหมวดหมู่เอาไว้ ก็จะไม่สามารถลงสินค้าได้สำเร็จ


2. เตรียมรูปสินค้า

รูปสินค้าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สินค้าดูน่าสนใจ คุณจำเป็นต้องเตรียมรูปสินค้า ให้มีขนาดพอดีและมีความคมชัด สามารถซูมดูรายละเอียดได้จะน่าสนใจมาก ควรมีอย่างน้อย 3 ภาพ เพื่อบอกรายละเอียดของสินค้าในหลาย ๆ มุม


3. เตรียมข้อมูลสินค้า

ข้อมูลและรายละเอียดสินค้าต่าง ๆ เช่น ชื่อสินค้า ราคา คำอธิบายสินค้า จำนวนสินค้า รวมถึงขนาดของสินค้า เพื่อให้การลงสินค้านั้นทำได้เร็วและง่ายขึ้น


4. คุณสมบัติสินค้า (Attribute)

คุณสมบัติสินค้า หรือตัวเลือก เช่น สี, ขนาด, วัสดุ หรือ ข้อมูลต่าง ๆ ที่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบสินค้าได้ เช่น ความจุ, ขนาดหน้าจอ, หรือ อื่น ๆ กรณีที่สินค้าของคุณมีคุณสมบัติเหล่านี้ คุณจำเป็นต้องสร้างคุณสมบัติขึ้นมาก่อน เพื่อให้การลงสินค้าได้สมบูรณ์


5. ตั้งค่าการขนส่ง

ในส่วนนี้จะส่งผลกับราคาสินค้า เพราะฉะนั้นอย่าลืมที่จะเตรียมข้อมูลในส่วนจองราคาค่าขนส่งสินค้าให้เรียบร้อย และถ้าเราไม่เลือกวิธีการขนส่งสินค้าจะยังสามารถสร้างสินค้าได้ เเต่ลูกค้าจะไม่สามารถซื้อสินค้าได้


6. ยี่ห้อสินค้า

หากร้านค้าของคุณมีสินค้าที่หลากหลายยี่ห้อสินค้า คุณควรสร้างโปรไฟล์ยี่ห้อสินค้าขึ้นมาก่อน 

เพื่อเวลาลงสินค้านั้นจะสามารถเลือกยี่ห้อให้กับสินค้านั้น ๆ ได้


 Tips 

หากคุณมีจำนวนสินค้าจำนวนมาก การลงสินค้าทีละชิ้นจะเป็นเรื่องที่ยากและน่าเบื่อไปทันที แต่ถ้าคุณสามารถเตรียมข้อมูลเหล่านี้เอาไว้เรียบร้อยแล้วคุณสามารถ Import สินค้าเข้าสู่ระบบพร้อมกันได้ทันที โดย SEP รองรับการ Import ข้อมูลผ่านระบบ Excel คุณสามารถนำข้อมูลทั้งหมดลงได้เลยทีเดียว หรือสามารถ Import ข้อมูลจากเว็บไซต์เก่ามาเว็บไซต์เราได้เลย



รูปแบบการสร้างสินค้า

        การสร้างสินค้าในระบบ SEP มีอยู่หลัก ๆ 3 ประเภท หากคุณรู้ว่าสินค้าของคุณเป็นสินค้าประเภทใหน ก็จะทำให้การเตรียมข้อมูลและการลงสินค้ามีความรวดเร็วและแม่นยำขึ้น และยังช่วยเพิ่มศักยภาพในการขายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย


1. Simple Product (การสร้างสินค้าอย่างง่าย)

Simple Product คือสินค้าที่ "ไม่มี Attribute” ที่มีผลกระทบกับ Stock สินค้าเป็นส่วนประกอบ หรือคือสินค้าที่ "ไม่มีตัวเลือกสินค้า” เช่น สี, ขนาด, วัสดุ, อื่น ๆ


ตัวอย่างสินค้าที่เป็น Simple Product

เช่น เสื้อที่มีสีเดียว ขนาดเดียว ลายเดียว / หูฟังที่ไม่มีให้เลือกสี / Thumb drive ที่ไม่มีให้เลือกขนาดความจุ / ของเล่นเช่น Gundam เป็นต้น





ข้อดีของการสร้างสินค้าแบบ Simple

-  เหมาะกับสินค้าทุกประเภท

-  สร้างได้ง่าย ไม่ต้องเตรียมข้อมูลสินค้ามาก



2. Configuration Products (การสร้างสินค้าที่มีตัวเลือก)

Configuration Product คือสินค้าที่ "มี Attribute” เป็นส่วนประกอบ

หรือก็คือสินค้าที่ "มีตัวเลือกสินค้า" (สี,ขนาด,วัสดุ) ที่มีผลกับ Stock สินค้า

หรือคือการนำ Simple Product มารวมกันนั่นเอง


ตัวอย่างสินค้าที่เป็น Configuration Product

เช่น เสื้อยืดที่มีให้เลือก 10 สี และมีขนาด S M L / Thumb drive ที่ Design เหมือนกันแต่มีความจุให้เลือก





ข้อดีของการสร้างสินค้าแบบ Configuration

-  สามารถสร้างตัวเลือกสินค้าได้ เช่น สี ขนาด วัสดุ

-  Stock สินค้าก็จะแยกตาม สี ขนาด วัสดุ เช่น เสื้อยืด มี Stock 100 ตัว เเบ่งเป็น เสื้อยืดสีขาวไซซ์ L 10 ตัว เสื้อยืดสีขาวไซซ์ M 5 ตัวเป็นต้น

-  มีผลกับราคา เช่น เสื้อยืดราคา 100 บาท แต่ถ้าเลือกซื้อขนาด XL จะบวกเพิ่ม 10 บาทเป็นต้น

   


3. Bundle Products

Bundle Product คือการนำ Configuration Product หรือ Simple Product มารวมกันเพื่อสร้างกลุ่มสินค้า หรือเพื่อแสดงให้ลูกค้าเห็นภาพและเข้าใจในสินค้า ทำให้เลือกซื้อได้ง่ายขึ้น เหมาะกับการขายสินค้าประเภท ชุดชั้นใน คอมพิวเตอร์ หรืออื่น ๆ ที่มีภาพรวมให้เห็น และเลือกชิ้นส่วนอื่น ๆ ได้ตามต้องการ


เช่น ชุดชั้นใน 1 Set หน้าตาแบบนี้ สามารถเลือกขนาดเสื้อชั้นในและกางเกงในที่ต่างสีต่างขนาดกันได้เป็นต้น

การ add สินค้าแบบนี้ ยังสามารถตัด Stock ได้ตามปกติ เพราะสินค้า ที่เป็นตัวลูกของ Bundle Products ก็คือ Simple Products หรือ Configuration Products นั่นเอง




ข้อดีของการสร้างสินค้าแบบ Bundle

-  เหมาะกับสินค้าที่ขายเป็นชุดแต่เลือกรายละเอียดในแต่ละชิ้นได้ หรือสินค้าที่แยกขายเป็นส่วนประกอบ เช่นชุดชั้นใน เครื่องคอมพิวเตอร์ เฟอร์นิเจอร์ หรืออื่น ๆ

-  ทำให้ลูกค้าเห็นภาพรวมของสินค้าและเลือกซื้อเป็นชิ้นๆได้

      

SEP Highlight Function

SEP มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน เพื่อเพิ่มรายละเอียดให้กับสินค้าของคุณได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น

-  รองรับการใส่ราคาแบบขั้นบันได (Tier Price) เช่น ซื้อ 1 ชิ้น ราคา X บาท ซื้อ 5 ชิ้น ราคา X บาท ซื้อ 10 ชิ้น ราคา X บาท

-  ตั้งค่าสินค้า New arrival ได้ และสามารถกำหนดระยะเวลาในการแสดงผลได้

-  การเพิ่ม Product Tag ฟังก์ชันเพิ่มโอกาสในการเห็นสินค้า สามารถใส่ Tag คำที่น่าสนใจในแต่ละสินค้า เพื่อให้ลูกค้าค้นหาแล้วเจอสินค้าตัวนั้น ๆ เลย เช่น สินค้ารองเท้า สามารถใส่ Product Tag ที่เกี่ยวข้องได้ ว่า #รองเท้า #รองเท้าผ้าใบ #สินค้าแฟชั่น เป็นต้น

-  สร้างเลข SKU No. ให้ได้โดยอัตโนมัติ โดยหากสร้างเลขด้วยตัวเอง แล้วใส่เลขซ้ำ ระบบจะมีการแจ้งเตือน

      

      SEP มีฟังก์ชันการจัดการสินค้าที่โดดเด่น และมีประสิทธิภาพ มีระบบจัดการข้อมูลที่อำนวยความสะดวกทั้งต่อ Admin และ ลูกค้า ด้วยฟังก์ชันที่ครบและหลากหลาย พร้อมใช้งานอย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด เพราะเราคิดเผื่อธุรกิจคุณ



#SEPPlatform #EcommercePlatform #Ecommerce #แพลตฟอร์มเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์