ทำความเข้าใจ สินค้าประเภทต่าง ๆ ในระบบของ SEP มีอะไรบ้าง 25/Nov/2021 12:00 PM
ทำความเข้าใจ สินค้าประเภทต่าง ๆ ในระบบของ SEP มีอะไรบ้าง
ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าทำไมต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้าประเภทต่าง ๆ ของระบบ SEP เหตุผลที่อยากให้ทำความเข้าใจประเภทของสินค้าแต่ละประเภท นั่นก็เพราะ เมื่อคุณรู้ว่าแต่ละประเภทมีอะไรบ้าง ต้องเตรียมข้อมูลอย่างไรบ้าง จะทำให้การเตรียมข้อมูลสินค้าของคุณและแม่นยำมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่นั้น เพราะจุดประสงค์ที่แท้จริงของ SEP คือ การสร้างยอดขายที่มีประสิทธิภาพให้กับธุรกิจของคุณ ในวันนี้อย่างที่เห็นได้ชัดอยู่แล้ว คือ จะอธิบายประเภทของสินค้า การสร้างสินค้า รวมถึงข้อดีของประเภทสินค้าทั้งหมด หากพร้อมแล้ว เราไปศึกษากันเลย
ประเภทของสินค้า
การสร้างสินค้าในระบบ SEP นั้นมีอยู่หลักๆ 3 ประเภท ได้แก่
Simple Product (การสร้างสินค้าอย่างง่าย)
Simple Product คือสินค้าที่ "ไม่มี" Attribute ที่มีผลกระทบกับ Stock สินค้าเป็นส่วนประกอบ หรือให้เข้าใจง่าย ๆ คือ สินค้าที่ "ไม่มี" ตัวเลือกสินค้าให้เลือก เช่น สี, ขนาด, วัสดุ, อื่น ๆ
ตัวอย่างสินค้าที่เป็น Simple Product
ตัวอย่างสินค้าที่เป็น Simple Product
- เสื้อที่มีสีเดียว ขนาดเดียว ลายเดียว
- หูฟังที่ไม่มีให้เลือกสี
- Thumb drive ที่ไม่มีให้เลือกขนาดความจุ
- ของเล่น เช่น Gundam เป็นต้น
ข้อดีของการสร้างสินค้าแบบ Simple
- เหมาะกับสินค้าทุกประเภท
- สร้างได้ง่าย ไม่ต้องเตรียมข้อมูลสินค้าเยอะ
Configuration Products (การสร้างสินค้าที่มีตัวเลือก)
Configuration Product คือสินค้าที่ "มี" Attribute เป็นส่วนประกอบ หรือก็คือสินค้าที่ "มี" ตัวเลือกสินค้า (สี,ขนาด,วัสดุ) ที่มีผลก็บ Stock สินค้านั่นเอง หรือก็คือการนำ Simple Product มารวมกันนั่นเอง
ตัวอย่างสินค้าที่เป็น Configuration Product
- เสื้อยืดที่มีให้เลือก 10 สี และมีขนาด S M L
- Thumb drive ที่ Design เหมือนกันแต่มีความจุให้เลือก
ข้อดีของการสร้างสินค้าแบบ Configuration
- สามารถสร้างตัวเลือกสินค้าได้ เช่น สี ขนาด วัสดุ
- Stock สินค้าก็จะแยกตาม สี ขนาด วัสดุ เช่น เสื้อยืด มี Stock 100 ตัว เเบ่งเป็น เสื้อยืดสีขาวไซซ์ L 10 ตัว เสื้อยืดสีขาวไซซ์ M 5 ตัวเป็นต้น
- มีผลกับราคา เช่น เสื้อยืดราคา 100 บาท แต่ถ้าเลือกซื้อขนาด XL จะบวกเพิ่ม 10 บาทเป็นต้น
Bundle Products (การสร้างสินค้าแบบเป็นกลุ่ม)
Bundle Product คือ การนำ Configuration Product หรือ Simple Product มารวมกันในการสร้างกลุ่มสินค้า เพื่อแสดงให้ลูกค้าเห็นภาพและเข้าใจในสินค้า ทำให้เลือกซื้อได้ง่ายขึ้น เหมาะกับการขายสินค้าประเภท ชุดชั้นใน คอมพิวเตอร์ หรืออื่น ๆ ที่มีภาพรวมให้เห็น และเลือกชิ้นส่วนอื่นๆได้ตามต้องการ
เช่น ชุดชั้นใน 1 Set หน้าตาแบบนี้ สามารถเลือกขนาดเสื้อชั้นในและกางเกงในที่ต่างสีต่างขนาดกันได้ เป็นต้น การ add สินค้าแบบนี้ ยังสามารถตัด Stock ได้ตามปกติ เพราะสินค้า ที่เป็นตัวลูกของ Bundle Products ก็ คือ Simple Products หรือ Configuration Products นั้นเอง
สรุป
ประเภทของสินค้าต่าง ๆ ในระบบ SEP มีทั้งหมด 3 ระบบ ได้แก่ Configuration Product สินค้าที่ไม่มีตัวเลือก Configuration Products สินค้าที่มีตัวเลือก และ Bundle Products สินค้าแบบเป็นกลุ่ม ดังนั้นควรรู้จักธุรกิจของตัวเองแบบละเอียด หลังจากนั้นจึงค่อยเลือกประเภทของสินค้า เพื่อให้ตรงกับความต้องการ และค่อยเริ่มสร้างยอดขายหลังจากนั้น